Thursday, May 24, 2012

เดินทางไปพบหลวงปู่ศุข (วัดปากคลองมะขามเฒ่า)




เมื่อปีพุทธศักราช 2463 พระภิกษุสุภาได้กราบลาหลวงปู่สีทัตต์ เพื่อออกธุดงควัตร และออกจากถ้ำภูเขาควายไปตามทาง ที่หลวงปู่สีทัตต์ได้เมตตาแนะนำ คือ ให้วิ่งจากถ้ำภูเขาควายไปท่าเดื่อ และจากท่าเดื่อไปหนองคาย ให้ไปสละธุดงค์ที่หนองคาย พร้อมทั้งแนะนำว่า อย่าเดินเพราะจะช้าเกินไป เรียนอะไรจะไม่จบ และยังชี้แนะอีกว่า จะได้พบอาจารย์ที่เก่งมากองค์หนึ่ง หากแต่ไม่ได้บอกว่าเป็นผู้ใด
พระภิกษุสุภา ออกเดินทางไปตามเส้นทางที่หลวงปู่สีทัตต์แนะนำ พอถึงหนองคาย ก็ออกธุดงค์นั่งรถยนต์เข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ทันเวลาตามที่หลวงปู่สีทัตต์ได้บอกไว้ เมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ท่านก็ได้ถามหาเกจิอาจารย์ที่สามารถสอนทางพุทธศาสตร์ที่ลึกลับ ลึกซึ้ง หรือสอนทางวิปัสสนากรรมฐาน มีคนเล่าลือกันว่ามีอาจารย์ศุข (หลวงปู่ศุข) อยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ท่านจึงออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เดินบ้าง นั่งรถบ้าง จนถึงจังหวัดชัยนาท ตามที่หลวงปู่สีทัตต์ได้บอกท่าน ก่อนกราบลาจากถ้ำภูเขาควาย เมื่อเดินทางมาถึงที่หมาย ท่านได้คลานเข้าไปกราบหลวงปู่ศุข ซึ่งขณะนั้นทราบแล้วว่า จะมีพระภิกษุมาจากประเทศลาว จึงถามท่านว่ามาจากประเทศลาวใช่หรือไม่ ท่านจึงตอบรับและกราบเรียนว่า มีความประสงค์จะมาขอให้หลวงปู่ อนุเคราะห์ให้ท่านได้อยู่ศึกษาเล่าเรียนด้วย หลวงปู่ศุขจึงรับหลวงปู่สุภาไว้เป็นศิษย์ ท่านพำนักอยู่กับหลวงปู่ศุขเป็นเวลา 3 ปี ได้ศึกษาวิชาต่างๆ ที่หลวงปู่ศุขได้ถ่ายทอดให้ หลวงปู่ศุขเองก็ได้ให้ความรัก ความเมตตาต่อลูกศิษย์ท่านนี้เป็นอย่างมาก ถึงแม้พระภิกษุสุภาได้บวชเรียนเป็นพระภิกษุมานานเกือบ 4 พรรษาแล้วก็ตาม แต่หลวงปู่ศุขก็ยังคงเรียกท่านว่า เณรน้อย เช่นเดียวกับที่หลวงปู่สีทัตต์เคยเรียก หลวงปู่ศุขย้ำเสมอว่า พระภิกษุสุภาคือ "เณรน้อย" ลูกศิษย์สุดท้องของท่าน เนื่องจากในขณะที่พระภิกษุสุภา เริ่มเข้าไปกราบหลวงปู่ศุขนั้น ท่านอายุมากแล้ว แต่ยังขยันปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ ได้ทุกวัน พระภิกษุสุภามีความเคารพนับถือ และรักใคร่หลวงปู่ศุขอย่างยิ่งเช่นกัน หลวงปู่ศุขจึงนับเป็นอาจารย์องค์ที่สองของท่านต่อจากหลวงปู่สีทัตต์

No comments:

Post a Comment