Thursday, May 24, 2012

เมื่อหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ธุดงค์กลับบ้านเกิด


ท่านได้ธุดงค์กลับขึ้นไปอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ในปีพุทธศักราช 2515 นับเป็นครั้งแรกที่ท่านได้กลับมาเยี่ยมบ้าน นับตั้งแต่ท่านออกจากบ้านเกิดไปเมื่ออายุ 9 ปี
ลูกหลานของท่านที่จังหวัดสกลนคร ได้นิมนต์ให้ท่านกลับมาอยู่บ้านเกิด หลังจากหลวงพ่อได้ไปสร้างบ้านที่อื่นเจริญรุ่งเรืองมาแล้วบ้าง
ห่างจากบ้านเกิดของหลวงพ่อประมาณ 9 กิโลเมตร มีถ้ำแห่งหนึ่งอยู่บนเชิงเขาเรียกกันว่า "ถ้ำพระทอง" ไม่มีถนนหนทาง ท่านจึงปรารภเป็นเชิงเย้าเล่นกับพวกลูกหลานว่า ถ้าลูกหลานสามารถทำทางขึ้นไปจนถึงยอดเขาถ้ำพระทองสำเร็จ หลวงปู่จะมาอยู่ประจำที่วัดถ้ำพระทอง ขณะที่หลวงปู่พำนักอยู่ที่บ้านเกิดนั้น ได้มีพิธีบวชพี่ชายและพระอื่นๆ อีก 9 องค์ พร้อมทั้งแม่ชีและเนกขัมมะ (ผ้าขาว) หลายสิบคน หลังจากนั้นหลวงพ่อสุภาก็ได้เดินทางออกจากบ้านเกิดธุดงค์ต่อไปยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ บัตเตอร์เวิร์ด กลับจากบัตเตอร์เวิร์ด ก็ธุดงค์กลับมาจำพรรษาที่นครปฐมอีกครั้ง โดยที่ท่านพลเอกท่านหนึ่ง คือ พลเอกกอบ (ไม่ทราบนามสกุล) ได้นิมนต์ให้จำพรรษาอยู่ในกุฏิที่ท่านได้สร้างไว้ที่วัดพระประโทน ในระหว่างนั้นท่านได้รับจดหมายจากทางบ้านที่จังหวัดสกลนคร แจ้งให้ทราบว่าลูกหลานได้ทำทางรถขึ้นไปถึงยอดเขาถ้ำพระทองสำเร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อคำพูดเล่นๆ ซึ่งหลวงพ่อสุภาได้พูดไว้กับลูกหลาน เรื่องการสร้างทางขึ้นถ้ำพระทองไว้ตั้งแต่แรก ที่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเป็นจริงขึ้นมา ท่านจึงจำจะต้องกลับไปที่ถ้ำพระทอง จังหวัดสกลนคร ตามวาจาที่ลั่นไว้ หากขณะนั้นท่านมีความตั้งใจแน่วแน่ ตั้งหลักที่ภูเก็ตเสียแล้วจึงได้ขอร้องให้ เพื่อนอดีตเจ้าคณะอำเภอชื่อพระครูคัมภีร์ไปดูแลวัดถ้ำพระทอง แต่บังเอิญต่อมาท่านพระครูรูปนั้นประสบอุบัติเหตุรถคว่ำถึงแก่มรณภาพลง หลวงปู่จึงต้องขึ้นไปจำพรรษา ที่วัดถ้ำพระทอง 3 พรรษา
ต่อมาท่านได้อธิษฐาน ขอให้บันดาลให้เพื่อนที่ได้ศึกษาปฏิบัติร่วมกันมาได้มาเฝ้าวัดนี้ให้ด้วย แล้วจึงได้พระอาจารย์ทองจันทร์ ศิษย์หลวงพ่อชา สุภทโท (ซึ่งเคยสร้างวัดร่วมกันมาก่อน) มาพำนักประจำอยู่ที่วัดถ้ำพระทองจนถึงบัดนี้
ปัจจุบัน วัดถ้ำพระทองมีชื่อว่า วัดพระพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่ที่ตำบลค้อเขียว อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร
หลังจากท่านอาจารย์ทองจันทร์ ได้มาจำพรรษาที่วัดถ้ำพระทองตามคำอธิษฐานจิตแล้ว หลวงพ่อสุภาได้ธุดงค์ออกจากสกลนครบ้านเกิดอีกครั้งหนึ่ง มุ่งหน้าไปจังหวัดเพชรบูรณ์
ปีพุทธศักราช 2517 ในขณะที่พำนักที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ทางทหารได้นิมนต์ท่านไปพำนักในค่ายทหารที่เขาค้อ เพื่อช่วยบำรุงขวัญทหาร ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการปราบปรามคอมมิวนิสต์ หลังจากนั้น ท่านจึงได้ธุดงค์กลับไปบ้านเกิดอีกครั้ง แต่คราวนี้ท่านเกิดอาพาธต้องพำนักอยู่ที่สกลนครนานหลายเดือน
ในปีพุทธศักราช 2519 หลวงพ่อธุดงค์กลับไปภูเก็ต เพื่อเยี่ยมวัดเกาะสิเหร่ แล้วจึงกลับไปบ้านเกิด ปีพุทธศักราช 2523 ท่านได้ธุดงค์กลับไปภูเก็ตอีกครั้ง โดยพำนักประจำอยู่ที่วัดเกาะสิเหร่เป็นเวลาหนึ่งพรรษา เมื่อกลับจากเกาะสิเหร่ท่านได้มาพำนักที่กุฏิเล็กๆ เชิงเขารังแห่งเดิมที่ท่านเคยพำนักอยู่นั้นเอง

No comments:

Post a Comment