ประวัติและขั้นตอนการสร้าง
“ไม่เคยคิดเลยว่า การสร้างหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส รูปเหมือนของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่สีทัตต์ ท่าอุเทน จ.นครพนม เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท จะสำเร็จเป็นจริงขึ้นมาได้ดังที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้…”
คำอธิษฐาน
“ถ้าถึงวันเวลาอันควร เหมาะสมกับกาลเทศะ ด้วยประการทั้งปวงแล้ว ข้าพเจ้าทั้งหลายขอตั้งจิตอธิษฐาน น้อมนำคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บารมีของครูบาอาจารย์ที่เคารพ บูชา โปรดให้พรแก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอสร้างบุญกุศลในกาลนี้ ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดีทุกประการ ปราศจากอุปสรรคใดๆ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของข้าพเจ้าทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าบุญวาสนามีจริง ก็ขอให้ได้สร้างหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนไฟเบอร์กลาส ของครูบาอาจารย์ทั้งสอง คือ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล 1 องค์ และหลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ 1 องค์ เพื่อไว้บูชา สักการะทั่วหน้ากันต่อไปในภายภาคหน้าด้วยเทอญ “
…คำอธิษฐานก็เป็นจริง หลวงปู่ทั้งสองรู้เจตนาก็อนุญาตให้สร้าง ซึ่งก็แปลกใจอยู่เสมอว่า “หลวงปู่ทั้งสองอนุญาต ในคราวเดียวกัน แม้ว่าท่านจะอยู่คนละที่ ท่านหนึ่งอยู่ภาคใต้ อีกท่านอยู่ภาคอีสาน” และให้สร้างสำเร็จด้วยดี สมกับความตั้งใจ…
หลวงปู่ได้ให้คำปรึกษามาโดยตลอด และสละเวลาเป็นเวลานานๆ ในบางขั้นตอนของการเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ของการสร้าง เพื่อให้หุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสรูปเหมือน เสร็จสมบูรณ์ใกล้เคียงหรือพร้อมๆ กันในเวลาต่อมา
ขั้นตอนการสร้าง
หลังจากที่ได้รับอนุญาตให้สร้างหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล แล้วก็ได้ติดต่อโรงหล่อปฏิมากรพรเลิศ ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายคุ้นเคย และได้ติดต่อเททองสร้างพระอยู่เรื่อยๆ การได้รับการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีของเจ้าของสถานที่ ช่าง และผู้ร่วมงานที่ดีเสมอมานั้น ทำให้ข้าพเจ้าทั้งหลายประทับใจในผลงาน และมอบความไว้วางใจติดต่อสร้างหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส โดยไม่ลังเลใจ โดยมีช่าง วิรัช รอดเรืองนาม เป็นช่างปั้น และขึ้นแบบ เก็บรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ตลอดจนผู้ร่วมงานที่มีส่วนช่วยกันสร้าง จนงานแล้วเสร็จสมบูรณ์
หลวงปู่สุภาได้มอบมวลสาร ซึ่งเป็นวัตถุมงคลเพื่อนำมาผสมทำเป็นดวงตาโดยเฉพาะ (และเพื่อให้เป็นส่วนผสมทำดวงตาหุ่นขี้ผึ้ง ของหลวงปู่คำพันด้วยเช่นกัน) นอกจากนี้ ยังมีเกศาของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ผ้าจีวร และอื่นๆ เพื่อให้ใช้ในการประกอบขั้นตอนของการสร้าง จะได้รูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสที่สมบูรณ์ รวมทั้งเตรียมสร้างอาสนะที่ตั้งหุ่น หลวงปู่ได้อนุญาตให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย โมทนาบุญที่ตั้งหุ่นส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งให้ผู้อื่นได้มาร่วมโมทนา จะได้รับบุญกันถ้วนหน้า ขอบพระคุณหลวงปู่ที่เมตตาทุกคนโดยทั่วถึงกันมา ณ โอกาสนี้เทอญ
ระยะเวลาในการสร้าง
ระยะเวลาในการสร้างหุ่นขี้ผึ้ง 1 องค์นั้น ได้ทราบจากโรงหล่อว่า อย่างน้อยต้องใช้เวลา 8 เดือน จึงจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งระยะเวลานั้น ข้าพเจ้าทั้งหลายไม่ได้เร่งรัดรีบด่วน จึงให้ทางโรงหล่อค่อยๆ ทำ เพื่อสร้างไปเรื่อยๆ แล้วแต่จังหวะ และเวลาทางหลวงปู่ และทุกคนสะดวก และโอกาสอำนวย หุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสนี้ เริ่มสร้างเมื่อปลายปี พ.ศ. 2544 แล้วเสร็จเมื่อต้นปี พ.ศ. 2546 แต่ไม่ได้ถวายทันที รอให้หลวงปู่ท่านกำหนดเวลาอันสมควรให้มาถวายพร้อมเพรียงกัน ทั้ง พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย บริวาร และญาติโยมทั้งหลาย ร่วมโมทนาบุญครั้งนี้ทั่วหน้ากัน
ขั้นตอนต่างๆ
ขั้นตอนแรก
- ถ่ายรูปให้ละเอียดในทุกๆ ด้าน
- วัดขนาดทุกส่วนของอวัยวะภายนอกร่างกายที่จำเป็น ในการประกอบการสร้าง เช่น กะโหลก ศรีษะ ตา หู คอ จมูก แขน ขา เป็นต้น
- เอาข้อมูลทั้งหมดเพื่อปั้นรูปดิน นำรูปที่ถ่ายรวมทั้งขนาด ข้อมูล ประกอบการขึ้นดิน และปั้นหุ่นดิน และพิจารณาดูให้เหมือนองค์จริง
- ถอดพิมพ์ต่อย เมื่อเห็นว่าเหมือนจริงแล้ว ช่างปั้นส่งรูปดินให้ถอดพิมพ์ต่อย โดยใช้ปูนพลาสเตอร์ เมื่อถอดพิมพ์เสร็จแล้ว ก็จะแกะพิมพ์ และขูดเอาดินออกจากพิมพ์ให้หมด แล้วเอาพิมพ์ไปล้างน้ำให้ดินหมด จนกว่าจะสะอาด พิมพ์ปูนพลาสเตอร์จะมีสีขาว เสร็จแล้ว ช่างถอดพิมพ์ก็จะบุขี้ผึ้งต่อในขั้นตอนต่อไป
- บุขี้ผึ้ง คือการทาขี้ผึ้งลงในพิมพ์ปูนพลาสเตอร์ แล้วประกบพิมพ์ รอจนกว่าขี้ผึ้งแห้งสนิทดีแล้ว จึงแกะพิมพ์ปุนออก ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนบุขี้ผึ้ง จากนั้นก็จะเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ให้เหมือนองค์จริงมากที่สุด ขั้นตอนนี้จึงสำคัญ เพราะว่าหุ่นขี้ผึ้งจะเหมือนจริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เป็นสำคัญ
- ขั้นตอนไฟเบอร์ ถ้าผ่านขั้นตอนบุขี้ผึ้งไปแล้ว ก็จะถึงขั้นตอนไฟเบอร์ ซึ่งจะแก้ไขอีกไม่ได้ เพราะคุณสมบัติของไฟเบอร์ เป็นวัสดุแข็ง จะแก้ไขเหมือนขี้ผึ้งไม่ได้ เมื่อแน่ใจว่าหุ่นเหมือนจริงแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ ที่เก็บรายละเอียดเกี่ยวกับรอบย่น และริ้วรอยต่างๆ ตามร่างกาย เช่น ทำผิว มาร์คผมที่จะใช้สำหรับให้ช่างเจาะรูใส่ผม แยกสัดส่วน เช่น แขน ขา องค์ เป็นต้น เมื่อช่างเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับร่างกายเสร็จแล้ว ก็จะส่งไปขั้นการถอดพิมพ์
ถอดพิมพ์
การถอดพิมพ์ยางซิลิโคน ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ เมื่อถอดพิมพ์เสร็จแล้ว จะส่งผ่านไปให้ช่างหล่อ ทำการหล่อไฟเบอร์ใช้เวลาประมาณ 3 วัน เมื่อหล่อเสร็จ ก็ถึงขั้นตอนการแต่ง
การแต่งรายละเอียด
ช่างจะแต่งรอยต่อต่างๆ ที่อยู่ในองค์ไฟเบอร์ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจะประกอบดวงตา ซึ่งใช้เวลาในการประกอบ ในขั้นนี้ประมาณ 1 วัน จากนั้นก็ส่งให้ช่างเจาะรูเส้นผม ใช้เวลาอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อเรียบร้อยก็จะปลูกเส้นผม ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานถึง 2 เดือน จบขั้นตอนปลูกผม ก็จะสามารถให้ช่างประกอบหุ่นขึ้นรูปร่าง และตัดแต่งผม เสร็จแล้วก็เพ้นท์สีผิว ขั้นตอนการเพ้นท์สีผิวนี้ใช้เวลานานพอสมควร ประมาณ 15 – 20 วัน เพราะนอกจากเพ้นท์สีผิวแล้ว จะต้องเก็บรายละเอียดทั้งหมด เช่น รอยกระ รอยย่น ไฝ ฝ้า เส้นเอ็น เส้นเลือด ยันต์รอยสักต่างๆ เป็นต้น เมื่อทุกอย่างเสร็จพร้อมแล้วก็ครองจีวร และประกอบอาสนสงฆ์ เป็นอันว่าเสร็จสมบูรณ์รอถวาย
ในวาระมงคลวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2547 หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ได้เมตตากำหนดวัน เวลา ถวายหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสรูปเหมือน ซึ่งถือได้ว่าเป็นองค์แรกที่หลวงปู่อนุญาตให้สร้างขึ้น เริ่มดำเนินการเมื่อปลายปี พ.ศ. 2544 จนสร้างเสร็จเมื่อต้นปี พ.ศ. 2546 หลวงปู่ได้ให้ญาติโยมนุ่งขาว ห่มขาว ถือศีล ร่วมนั่งกรรมฐาน วิปัสสนา พร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่ม จนถึงเที่ยงคืน ในวันที่ทำพิธีถวาย และหลวงปู่จะทำพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปหน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน 198 องค์ ซึ่งพระพุทธรูปรุ่นนี้ มีความงดงามมาก โดยมีสองพุทธลักษณะ คือ ความงดงามของพระศรีศาสดา และ พระพุทธสีหิงค์ รวมอยู่ในองค์เดียวกัน (ช่างไล้ เป็นผู้ปั้นหุ่นขึ้นแบบ) หลวงปู่ได้เมตตาตั้งชื่ออันเป็นมงคลของพระพุทธรูปบูชานี้ว่า “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2547 เวลาประมาณ บ่ายโมงเศษ หลวงปู่บอกว่า “พุทธะ” เสมือนพระพุทธรูป ซึ่งแสดงถึงตัวแทนพระพุทธเจ้า หรือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า “มงคล” หมายถึง สิ่งที่ดี สิ่งที่งาม สิ่งที่ประเสริฐ พร้อมด้วยความสุขสบายกาย สบายใจ เป็นนิมิตรอันประเสริฐ มีความศักดิ์สิทธิ์นับว่าเป็นมงคลนาม บังเกิดให้มีแต่ความดีงาม ความเจริญรุ่งเรือง มีความสุขกาย สบายใจ และเข้าพึงพระพุทธะ โดยถ้วนหน้ากัน
ทางโรงหล่อปฏิมากรพรเลิศได้ให้ช่วยกราบเรียนขออนุญาต หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ถึงความประสงค์ ความศรัทธามีกุศลเจตนาที่ดี เป็นประโยชน์ต่อญาติโยมทั้งหลาย เพื่อสร้างหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสขึ้นอีกเป็นองค์ที่สอง เหมือนกับองค์แรก ไว้ให้บูชา กราบไหว้ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง จ.ราชบุรี
ด้วยวัยที่ชราภาพ ย่าง 109 ปี ของหลวงปู่สุภา กนฺตสีโลแต่หลวงปู่ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย โปรดพระภิกษุ สงฆ์ สามเณร ศิษยานุศิษย์ ญาติโยมทั้งหลายที่แวะมากราบนมัสการหลวงปู่ตลอดมา แม้ว่าในบางครั้งกายสังขารความชราภาพปรากฏ หลวงปู่ก็ไม่เคยท้อต่อกายสังขารเลยแม้แต่น้อย ยังคงโปรดทุกคนทั้งหลายเสมอมา นับว่าเป็นบุญวาสนาของทุกคนที่ได้กราบนมัสการหลวงปู่
ข้าพเจ้าทั้งหลายได้ตั้งสัจจาอธิษฐานไว้ว่า “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” มีจำนวน 198 องค์ จะแบ่งถวายเป็น 2 ชุด ชุดละ 99 องค์
พระชุดแรกมี 99 องค์ ถวายหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ทั้งหมด ผู้มีจิตศรัทธาจะบูชา เพื่อเป็นสิริมงคลก็บูชาได้ โดยปัจจัยจะถวายทางวัดทั้งหมด เพื่อนำไปสร้างพุทธประโยชน์สืบไป
พระชุดที่สอง มี 99 องค์ ถวายวัดหลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ ทั้งหมด เพื่อนำปัจจัยที่ได้ร่วมสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญต่อไป (ติดต่อได้โดยตรงกับทางวัดทั้งสองแห่ง)
พระพุทธมงคล ศักดิ์สิทธิ์
พระพุทธรูป “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” นี้ มีสองพุทธลักษณะรวมอยู่ในองค์เดียว มีพุทธลักษณะของพระศรีศาสดา กับ พุทธลักษณะของพระพุทธสิหิงค์ ซึ่งควรแก่การบูชา สักการะ และหลวงปู่ทั้งสอง คือ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโลทำพิธีพุทธาภิเษกให้ หลวงปู่คำพัน โฆสปัญโญ ทำพิธีสร้าง ดังนั้นเสมือนหนึ่งว่า “พระพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์” นี้ ได้รับความเมตตา ทำพิธีให้เกิดพุทธคุณศักดิ์สิทธิ์ ถูกต้องตามการสร้างพระพุทธรูปมาแต่พุทธโบราณกาล คือ มีพิธีสร้าง และพิธีพุทธาภิเษกที่ถูกต้องสมบูรณ์ สำเร็จเป็นองค์พระที่น่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง และด้วยอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยดลบันดาลให้เหตุการณ์ต่างๆ เป็นไปตามความเหมาะสม ทั้งเหตุการณ์ เวลา และปัจจัยอื่นๆ จนสำเร็จได้ด้วยดี ตั้งแต่ก่อนสร้าง เริ่มสร้าง สร้างเสร็จสมบูรณ์นั้น ข้าพเจ้าทั้งหลายขอน้อมระลึกอยู่ในจิตตลอดไป
วันจันทร์ ที่ 7 เมษายน 2546 เป็นพิธีสร้างพระที่หลวงปู่คำพัน ได้กำหนดวัน เวลา และท่านตั้งใจมาเป็นประธานในพิธี หลวงปู่บอกว่า แม้กายสังขารจะเป็นอย่างไร หลวงปู่ก็ตั้งใจจะมาให้เอง (เพราะขณะนั้นสุขภาพของท่านไม่ค่อยแข็งแรง) ซึ่งนับว่า พระรุ่นที่หลวงปู่ ได้เมตตามาเป็นประธานในวันนี้ เป็นรุ่นสุดท้ายของหลวงปู่คำพัน
ในวันทำพิธี พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ และร่วมพิธีถึง 121 รูป ญาติโยมที่มาร่วมในพิธีมากมายราวเกือบหนึ่งพันคน เพราะดูจากของที่ระลึกที่เตรียมไว้แจกนั้น แจกไปราวๆ เกือบหนึ่งพันองค์
หลวงปู่สุภา ได้มอบฉนวนหล่อพระ ที่ทำพิธีอธิษฐานจิตแล้ว ให้ญาติโยมได้อธิษฐานในพิธี หลวงปู่คำพันได้อธิษฐานจิตฉนวนหล่อพระ และมีวัตถุมงคลอีกจำนวนหนึ่งด้วยเช่นกัน
ดังนั้น พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ มีจำนวนน้อยมาก ท่านผู้มีจิตศรัทธาที่จะบูชาติดต่อกับทางวัดได้โดยตรง เสมือนหนึ่งท่านได้สิ่งที่เป็นสิริมงคลไปบูชาสักการะ และอีกทางหนึ่งก็ได้ช่วยทำนุบำรุงพุทธศาสนา และเพื่อพุทธประโยชน์สืบไป
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ช่วยดลบันดาลให้ท่านที่มาร่วมอนุโมทนา
ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยดลบันดาลให้ท่านที่มาร่วมอนุโมทนา ผู้ร่วมพิธี ตลอดจนสาธุชนทั้งหลาย จงมีแต่ความสุข ความเจริญ ปรารถนาสิ่งใดถูกต้องในศีลและธรรม ขอให้สมความปรารถนาและมีความสำเร็จทุกประการเทอญ
พุทธลักษณะของพระพุทธสิหิงค์
พุทธลักษณะ ปางสมาธิ ขัดสมาธิราบขนาดหน้าตัก 66 เซนติเมตร สูงจากพื้นที่ประทับถึงพระรัศมี 91 เซนติเมตร วัสดุโลหะสัมฤทธิ์ ส่วนด้านศิลปกรรม เป็นพุทธศิลป์ที่สร้างในลังกา พระสรีระได้ส่วน และงามที่สุด นอกจากพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลกแล้ว จะหาพระพุทธรูปโบราณที่มีอยู่ในประเทศไทยงดงามได้ส่วนเทียบพระพุทธสิหิงค์ไม่ได้ และเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาติไทย เป็นสิริมงคล และหลักใจของพุทธศาสนิกชน มีอานุภาพสามารถบำบัดความทุกข์ทางใจให้เหือดหาย เมื่อท้อถอย หมดมานะแล้วได้สักการะ จะทำให้ดวงใจอันเหี่ยวแห้งกลับสดชื่น มีความเข้มแข็ง จิตใจที่หวาดกลัวจะกลับกล้าหาญ จิตที่เกียจคร้านจะมีแต่วิริยะ ผู้หมดหวังจะมีกำลังใจ “พระพุทธสิหิงค์ เมื่อเสด็จประทับอยู่ในที่ใดๆ ย่อมทรงทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองดั่งดวงประทีป เหมือนหนึ่งว่าพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์อยู่” ชาวไทยมีพระพุทธรูปนามว่า พระพุทธสิหิงค์ถึง 3 องค์ นอกจากที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์แล้ว ยังมีที่นครศรีธรรมราชองค์หนึ่ง และที่เชียงใหม่อีกองค์หนึ่ง
พุทธลักษณะพระศรีศาสดา
ปางมารวิชัย วัสดุโลหะ ขนาดหน้าตัก 6 ศอก เป็นศิลปกรรมสมัยสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยรุ่นเดียวกับพระพุทธชินราช และพระพุทธชินสีห์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในพระวิหารพระศรีศาสดา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พุทธลักษณะงดงาม
No comments:
Post a Comment