Thursday, May 24, 2012

หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล สร้างสำนักสงฆ์เทพขจรจิตร ที่ภูเก็ต




ปีพุทธศักราช 2523 จังหวัดภูเก็ตเจริญขึ้นมากแล้ว ที่ดินบนเกาะภูเก็ตก็มีราคาแพงขึ้นมาก ผู้คนก็เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมายไปทั่วเกาะ มีสถานที่ที่พอจะแสวงหาความสงบและอยู่ปฏิบัติธรรม ได้เพียงแห่งเดียว คือ บนภูเขารัง ที่เป็นสวนสาธารณะของจังหวัด ด้านเหนือของทางขึ้นเขารัง เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาลประจำจังหวัดภูเก็ต เลยจากโรงพยาบาลขึ้นขึ้นภูเขาไปทางด้านหลังนั้น ทางโรงพยาบาลใช้สร้างเป็นที่เก็บศพ ซึ่งด้านหลังเป็นเชิงเขาที่มีป่าอยู่หย่อมหนึ่ง ค่อนข้างเงียบสงบ ร่มรื่น แต่ออกจะวังเวงน่ากลัว และเป็นทางเปลี่ยว ไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมา เนื่องจากอยู่ใกล้โรงเก็บศพ
เมื่อหลวงปู่สุภา กนÚตสีโล กลับมายังภูเก็ตอีกครั้งในปีพุทธศักราช 2523 ท่านจึงเลือกทำเลสงบเงียบดังกล่าวนั้นเอง เป็นที่จำพรรษาและบำเพ็ญธรรม ในระยะแรกๆ ก็เพียงแต่ปักกลดพำนัก เมื่อลูกศิษย์ตลอดจนผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านได้ข่าวว่า ท่านกลับมาอยู่ที่ภูเก็ตอีก จึงได้พากันมานมัสการ และร่วมกันสร้างกุฏิให้ โดยครั้งแรกก็สร้างเป็นกระต๊อบเล็กๆ เพื่อให้หลวงปู่ ซึ่งขณะนั้นอายุ 84 ปีแล้ว ได้พักผ่อนและอยู่ปฏิบัติธรรมอย่างสบายๆ พอถึงพุทธศักราช 2524 บรรดาลูกศิษย์ได้ปรึกษากันว่า บัดนี้หลวงปู่ท่านก็ชราภาพมากแล้ว ไม่เหมาะที่จะเที่ยวธุดงค์ในป่าในเขาอีกต่อไป ชีวิตในบั้นปลายของท่าน ควรจะได้จำพรรษาอยู่เป็นหลักแหล่ง ณ ที่ใดที่หนึ่ง เมื่อร่วมกันพิจารณาที่อยู่ปัจจุบันของท่านแล้ว เห็นว่าเหมาะสมมากเนื่องจากอยู่ใกล้ตัวเมือง ลูกศิษย์และประชาชนที่เลื่อมใสศรัทธาท่านที่อยู่ในตัวเมือง ส่วนใหญ่จะได้ดูแลท่านในยามชราและมาได้บ่อยขึ้น อีกทั้งเห็นว่า คนเจ็บไข้ได้ป่วยในวัยชรา ส่วนใหญ่จะต้องการแพทย์ที่โรงพยาบาลมาดูแลบ้างเป็นครั้งคราว จึงตัดสินใจกันเสนอให้หลวงปู่สร้างวัดหรือสร้างสำนักขึ้น ณ ที่นั้นอีกแห่ง เพื่อท่านจะได้จำพรรษาอยู่ที่นี่ประจำ หลวงปู่ก็จะเห็นด้วย จึงได้เริ่มสร้างสำนักสงฆ์แห่งนั้นขึ้นมา แต่เนื่องจากว่าที่บริเวณนั้นมีเนื้อที่เพียงไร่เศษๆ เท่านั้น ซึ่งตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ว่าด้วยการกำหนดพื้นที่ในการสร้างวัด กำหนดไว้ว่า สร้างวัดได้ก็ต่อเมื่อ ต้องมีเนื้อที่อย่างน้อย 6 ไร่ จึงสร้างได้เพียงเป็นสำนักสงฆ์เท่านั้น ที่ดินผืนนี้เดิมเป็นของหมื่นขจิตร พงษ์ประดิษฐ์ฯ ต่อมาท่านเสียชีวิตก็ตกมาเป็นของบุตรชายคือ นายตระกูล พงษ์ประดิษฐ์ สตท.กำเนิด พงษ์ประดิษฐ์ บุตรชายของท่านได้ขายที่ดินแถบนั้นไป พร้อมทั้งได้บริจาคที่ดินไร่เศษๆ ผืนนั้น ถวายให้หลวงปู่เพื่อสร้างสำนักสงฆ์ ตามชื่อของเจ้าของที่ดินเดิม คือ ทานหมื่นขจิตรฯ สำนักสงฆ์แห่งนี้ได้สร้างมาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่พุทธศักราช 2524 เป็นต้นมา
ที่สำนักสงฆ์เทพขจรจิตรนี้ ท่านได้สร้างปูชนียวัตถุที่สำคัญยิ่ง ไว้อีกครั้งหนึ่งคือ พระพุทธปฏิมากร ปางประทานพรขนาดใหญ่ ที่ประดิษฐานให้ผู้คนได้เห็นชัดที่เชิงเขา พระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดใหญ่มาก สร้างขึ้นบนหลังคากุฏิของพระภิกษุสงฆ์ จะเห็นได้ว่าหลวงปู่ได้ใช้ปัญญาในการใช้พื้นที่จำนวนน้อยให้มีความสำคัญ และมีคุณค่าอย่างเหมาะสมค่าใช้จ่ายในการสร้างสำนักสงฆ์ และพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ในครั้งนั้นรวมแล้วประมาณกว่า 20 ล้านบาท พระพุทธรูปที่สำนักสงฆ์เทพขจรจิตรองค์นี้ ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดภูเก็ตในขณะนี้

No comments:

Post a Comment