Friday, August 17, 2012

ผจญภัยกับงูเหลือมยักษ์

ประสบการณ์
จากธุดงค์วัตร

ผจญภัยกับงูเหลือมยักษ์

     ขณะที่หลวงปู่สุภาธุดงค์อยู่ตามถ้ำต่างๆ ในป่าแถบภาคอีสานของประเทศไทย ท่านได้ประสบพบอุปสรรคต่างๆ แทบจะเอาตัวไม่รอดหลายครั้ง แต่ด้วยศีลบารบีและการปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดของท่าน ภยันตรายต่างๆ ในเถื่อนถ้ำเขาลำเนาไพรก็ปลาสนาการไปได้


ภาพประกอบจากหนังสือ
ฉลองอายุ 100 ปี หลวงปู่สุภา
     ดังเช่น ครั้งหนึ่งขณะที่ท่านธุดงค์อยู่ในถ้ำ ท่านเล่าว่าถ้ำแห่งนั้นสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลาราวกับมีคนหรือเทวดาหรือเทพยดามาทำความสะอาดไว้ ขณะที่ท่านนั่งภาวนาอยู่ในกลดได้มีงูเหลือมยักษ์ตัวหนึ่ง โตขนาดเท่าต้นมะพร้าวได้กลืนท่านเข้าไปจนกระทั่งถึงโคนขา ท่านเล่าว่า ก่อนที่จะรอดกลับมาเป็นคนได้ต่อไปในครั้งนั้น เป็นเพราะท่านตั้งสัจจาอธิษฐานจิตมั่นไม่เคลื่อนไหวหรือ กระดุกกระดิก นั่งเพ่งเจ้างูเหลือมยักษ์และสื่อสารทางจิตว่า


      "เจ้าจะกินข้าจริงๆ หรือ ข้าอนุญาติให้เจ้ากินข้าได้ เพราะข้าสละหมดแล้ว ชีวิตร่างกายอะไรต่ออะไร ไม่มีแล้ว ที่ข้าปรารถนาทุกวันนี้ คือ นิพพาน ถ้าว่าเจ้าจะกินข้าจริงๆ ก็ได้แต่มีข้อแม้ว่า ถ้าเจ้ากินข้าแล้วข้าต้องไปนิพพานนะ ถ้าข้าไปนิพพานไม่ได้เจ้าจะกินข้าเปล่าๆ ให้เจ้าถอยออกไป"


ภาพประกอบจากหนังสือ ฉลองอายุ 100 ปี หลวงปู่สุภา

     พอหลวงปู่พูดเสร็จ ท่านก็เร่งแผ่เมตตาจิต เจ้างูเหลือมยักษ์ก็ค่อยๆ คายร่างท่านออก แต่ท่านก็ยังคงนั่งแผ่เมตตาต่อไป จนกระทั่งดึกสงัดประมาณตีหนึ่ง ท่านได้ยินเสียงไม้ต้นใหญ่หักดังสนั่นหวั่นไหว ท่านนึกว่างูเหลือมยักษ์คงจะกลับจะกินท่านอีก ท่านจึงนั่งแผ่เมตตาตลอดเวลา และนึกว่าถ้างูเหลือมยักษ์จะกินท่าน ท่านก็จะยอมให้มันกิน  นั่งภาวนาจนสว่างก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  พอได้เวลารุ่งอรุณ 6 โมงเช้า ท่านก็เก็บกลดเสร็จเรียบร้อย  ออกไปบิณฑบาตแล้วกลับมาฉัน พอฉันเสร็จก็เดินลงไปดูว่าเสียงที่ดังสนั่นเมื่อตอนดึกคืนนั้นเป็นเสียงอะไร  เมื่อท่านไปถึงก็เห็นเจ้างูเหลือมที่จะกลืนท่านได้ตายเสียแล้ว  แต่ท่านไม่ได้บอกให้ทราบว่าเจ้างูเหลือมยักษ์ตัวนั้นตายด้วยสาเหตุใด

     จากประสบการณ์นี้ หลวงปู่กล่าวว่า "การธุดงค์ขึ้นอยู่กับจิตของเรา ถ้าจิตวอกแว่กและกลัวเกินไปก็ตาย  พระธุดงค์ทั้งหลายเวลาไปธุดงค์พบอะไรต่างๆ แล้วเกิดความกลัวและตัดไม่ขาด จึงมักยังกลัวตายอยู่"



เครดิตเนื้อหา: หนังสือฉลองอายุ 100 ปี หลวงปู่สุภา กันตสีโล

No comments:

Post a Comment