Thursday, September 13, 2012

คนธรรพ์เมืองลับแล

ประสปการณ์

จากธุดงควัตร
คนธรรพ์เมืองลับแล


ภาพประกอบจากหนังสือ
๑๐๐ ปี หลวงปู่สุภา
เรื่องคนธรรพ์นี้หลวงปู่เล่าว่าคนธรรพ์มีลักษณะเตี้ยๆ อย่างคนแคระ แต่มีพละกำลังแข็งแกร่งมหาศาลสามารถหักไม้ท่อนโตๆ ได้อย่างง่ายดาย คนธรรพ์อาศัยอยู่ที่เมืองลับแลซึ่งแต่ก่อนเป็นเพียงหมู่บ้านแต่ขณะนี้คือ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่ก่อนคนธรรมดาจะไม่สามารถมองเห็นเมืองลับแลได้  จนกระทั่งมีพระภิกษุรูปหนึ่งธุดงค์ไปที่นั่นท่านมียาแก้ลี้ลับ  เมื่อไปถึงเมืองลับแล ท่านจึงเอายาใส่จานผ่านไฟจนมีควันขึ้น  พอควันไฟลอยไปถึงที่ไหนก็เริ่มมองเห็นที่นั่นได้  จนกระทั่งกลายเป็นมองเห็นได้ทั้งเมืองเป็นเมืองลับแลทุกวันนี้

หลวงปู่เล่าว่าทุเรียนเมืองลับแลมีรสชาติดีมาก แม้ว่าจะเป็นลูกขนาดเล็กโตกว่ากำปั้นหน่อยเดียวเท่านั้น ชาวลับแลขยันและมั่งมีสมบัติมากมาย ถ้าใครไปถึงเมืองลับแลได้ ให้ถือสัตย์ศีล ๕ อย่าให้ขาด ไม่โลภ ไม่หลง จะรอดกลับมาได้ เพราะอาจจะเห็นหน่อคำ (ทองคำ) หยอดขึ้นมา ถ้าไปหยิบขึ้นมาจะต้องตาย บางครั้งก็จะเห็นเป็นเพชรไหลลงมาจากบนเขาตามร่องน้ำมา ที่ทางหินซึ่งเป็นร่องเต็มไปหมด แต่ถ้าใครไปหยิบมา ผู้นั้นจะต้องตายเพราะจะถูกคนธรรพ์ซึ่งเฝ้าดูแลพวกทองคำและเพชรเหล่านั้นทำอันตรายจนถึงตาย

ทุเรียนเมืองลับแล

เมืองลับแลเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ ทำการเกษตรได้ผลดีมาก ไม่ว่าจะทำนาหรือทำสวน ที่เมืองลับแลมีทุกสิ่งทุกอย่าง แต่กับหลวงปู่ คนธรรพ์จะนำมาถวายไม่ว่าจะเป็นอาหาร ทองคำ หรือเพชร เพราะคนธรรพ์เหล่านั้นเห็นว่าหลวงปู่มีศีลมีธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ไม่รังควานใคร แต่สำหรับคนอื่นๆที่ได้ไปถึงเมืองลับแล แล้วลักพาทองคำหรือเพชรออกมา ไปฝากญาติโยมจะต้องถูกคนธรรพ์ฆ่าตายหมด หลวงปู่เป็นผู้หนึ่งที่คนธรรพ์มอบเพชรมาให้ประมาณ ๑,๐๐๐ กว่าเม็ด และท่านได้นำมาแจกญาติโยมที่กรุงเทพฯ หมดภายในเวลา ๒ วัน ลักษณะเพชรนั้น มีรวมทั้งที่ดูเหมือนเจียระไนแล้ว เช่น เพชรน้ำดีก็มีมาก

เมืองอุตรดิตถ์


แหล่งที่มา:  หนังสือ ๑๐๐ ปี หลวงปู่สุภา กันตสีโล
                   พิมพ์ ๑๗ กันยายน ๒๕๓๘

Saturday, September 8, 2012

ท้าวผีน้อย

ประสปการณ์

จากธุดงควัตร

ท้าวผีน้อย

ภาพประกอบจากหนังสือ
ฉลอง ๑๐๐ ปี หลวงปู่สุภา
     หลวงปู่สุภาเล่าให้ฟังว่า สมัยที่เกิดกลียุคในช่วงเวลาใกล้เคียงกับที่หลวงพ่อบ้านแดงถูกจับไปคุมขังนั้น อาจารย์กุ้ง อยู่ที่บ้านหันน้อย อำเภอดงหาร ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อล้อม ลักษณะอ้วนขาว ได้ไปปฏิบัติวัตรฐากท่าน จนมีเสียงเล่าลือว่าตั้งครรภ์กับอาจารย์กุ้ง แต่ความจริงหญิงผู้นั้นไม่ได้เป็นเช่นคำเล่าลือที่ว่ามีเรื่องชู้สาวกับท่านอาจารย์ หากเป็นอาการประหลาดอย่างหนึ่งเรียกว่าเป็น "อินทรทรัพย์สมร" คือ มีอาการท้องใหญ่โตใหญ่ โดยไม่มีสามี พอนางล้อมท้องแก่ได้เข้าไปคลอดในป่า ขณะไปสับหน่อไม้ แต่เมื่อคลอดออกมามีแต่เลือดและน้ำเท่านั้น ท้องจึงได้แฟบลง

     พอคลอดได้ประมาณ ๔ - ๑๐ วัน นางล้อมมีความรู้สึกว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่เห็นตัวมาคลอเคลียตามหน้าอกเพื่อกินนม จึงกลัวมาก  อาจารย์กุ้งปลอบว่า "ไม่เป็นไรหรอก เจ้าคนมีบุญ เจ้าน้อยจึงมาเกิดด้วย ดูๆ ไปสักปีกว่าๆ โยมจะรู้"  นางจึงยอม  ปล่อยให้ดูดนมและตัวนางล้อมเองก็มีน้ำนมให้กินได้ตลอดเวลาด้วย  ครั้นอายุได้ ๒ - ๓ ปี ก็พูดได้ พูดเก่ง แต่ไม่มีใครมองเห็นตัว ได้ยินแต่เสียง คนทั้งหลายจึงตั้งชื่อให้ว่า "ท้าวผีน้อย" หรือ "ท้าวน้อย" น่าแปลกที่พออายุได้ ๗ - ๘ ขวบ  ท้าวผีน้อยจะไปอาบน้ำได้บอกลาแม่ว่า "แม่ๆ ผมจะไปอาบน้ำ"  แม่ถามว่า จะไปอาบที่ไหน  ท้าวผีน้อยก็ตอบว่า "จะไปอาบน้ำที่หนองแสแสนยาก"  เวลาท้าวผีน้อยจะออกจากตัวแม่จะออกไปทางทวาร พอจะออกจากบ้าน บ้านจะโยกไปทั้งหลัง  เวลากลับก็มาด้วยกำลังแรงผลุบลงกลางบ้าน  ได้ยินแต่เสียงแจ๋วๆว่า "น้ำเย็นจังเลย"  แม่ก็ถามว่า "ทำไมไม่เอาน้ำมาฝากแม่ด้วย"  คำตอบคือ "ไม่ได้เอามา เจ้าของเขาไม่ให้" 

     ท้าวผีน้อยชอบเล่นเพราะเป็นธาตุไฟ เมื่อผู้เป็นแม่จะมวนบุหรี่ถวายพระ  ท้าวผีน้อยก็ไปจัดการเอามาให้แม่เสร็จ  โดยที่นางล้อมเองก็ไม่ทราบว่าท้าวผีน้อย ไปเอาบุหรี่มวนใบตองมาจากที่ใด  เมื่อโตขึ้นหน่อย ท้าวผีน้อยมักจะชวนพระภิกษุไปดึงหนัง แรงพระ ๔ - ๕ รูป ดึงหนังยังสู้แรงท้าวผีน้อยไม่ได้  นับว่าเป็นสิ่งที่แปลกมากทีเดียว

แหล่งที่มา : หนังสือฉลอง ๑๐๐ ปี หลวงปู่สุภา